ขั้นตอนขอรับ Ai Dashboard

พฤษภาคม 07, 2563


1.สมัครร่วมเป็นเทรดเดอร์กับโบรกเกอร์ World Class

วิธีสมัครเทรดกับ WCF (เว็บไซต์ใหม่)
ง่ายๆเพียง 5 ขั้นตอนนี้



วิธีเปิดบัญชีเทรดจริง


ดูขั้นตอนเปิดบัญชี(เว็บไซต์เก่า)
  •  ให้กรอกข้อมูลส่วนตัวเป็นภาษาอังกฤษ
  • ใส่ข้อมูลรายได้โดยเฉลี่ยของท่าน (อย่างน้อยให้ใส่ขั้นต่ำที่ระบุให้เลือก)

  • กรอกข้อมูลช่องทางการติดต่อของท่าน จะใส่หรือไม่ก็ได้ แล้วกด Next ไปหน้าถัดไป

  • กรอกข้อมูลทั่วไป ที่สำคัญคือ การตั้งรหัสผ่าน(Password)และคลิกเครื่องหมายถูก (ฉันไม่ใช่โปรแกรมอัติโนมัติ)
  • เข้าไปตรวจสอบอีเมลล์ เพื่อยืนยันการเปิดบัญชี

  • หลังจากนั้นให้หาคำว่า " Click here" เพื่อยืนยันการสมัคร
  • และบันทักด้วยคัดลอก หรือ แคปหน้าจอ เก็บข้อมูลไว้




2. กรอกข้อมูลลงทะเบียนที่นี่ 
แล้วแคปหน้าจอ facebook ของท่านส่งมาทางไลน์เพื่อยืนยันขั้นตอนการลงทะเบียน แล้วแอดมินจะติดต่อกลับ นัดหมายวัน เวลา การลงโปรแกรมอีกครั้ง


3.เตรียมเครื่องมือเทรดให้พร้อม

    -TeamViewer โปรแกรมควบคุมคอมพิวเตอร์ระยะไกล รีโมทคอมพิวเตอร์ที่ไหนก็ได้ในโลก ชีวิตคุณจะง่ายขึ้นไปอีกเยอะ 

- MT4 เครื่องมือเทรดยอดนิยมที่เทรดเดอร์ใช้งานมากที่สุด 
(ตรวจสอบอีเมลล์ของท่านและเลือก Download MT4) 

หรือคลิ๊กที่นี่>>

MT4 คืออะไร?

เมื่อคุณทำการเทรด forex หัวใจสำคัญประการหนึ่งที่คุณจะต้องมีคือโปรแกรมที่ช่วยคุณในเรื่องของการเทรด forex ซึ่งโปรแกรมดังกล่าวที่ผมต้องการจะแนะนำนั้นเรียกว่า MT4 สำหรับโปรแกรมนี้เป็นอย่างไร มีข้อดี ข้อด้อยอย่างไร และเราจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องติดตั้ง มาทำความรู้จักกับ MT4 ไปพร้อมๆกันเลยนะครับ
 

MT4 คืออะไร
อันดับแรกมาทำความรู้จักกับ MT4 กันเสียก่อน MT4 คือโปรแกรมที่ช่วยในการเทรด forex มีชื่อเต็มเป็นภาษาอังกฤษว่า Meta trader 4 ด้วยการออกแบบ Interface ที่สวยงามน่าใช้งาน พร้อมทั้งการใช้งานที่ง่าย จึงทำให้โปรแกรมนี้กลายเป็นที่ยอมรับ และมีการใช้งานทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกเลยก็ว่าได้
ความเจริญก้าวหน้าของ Internet ในปัจจุบัน ส่งผลให้การทำธุรกรรมการเงินต่างๆ มีความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น จากเมื่อก่อนต้องเสียเวลาดำเนินการด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปด้วยตัวเอง หรือว่าพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ ภาพเก่าๆเหล่านี้มันจะเริ่มลบเลือนลงไปทุกที ตลาด Forex ก็เช่นเดียวกัน Internet เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องแทบจะ 100% เลยก็ว่าได้ นักเทรด Forex สามารถส่งคำสั่งซื้อขายผ่านทางโปรแกรมสำหรับเทรด Forex ได้ภายในไม่กี่คลิ๊ก
โปรแกรม Metatrader คือ โปรแกรมที่ถูกออกแบบขึ้นมาอย่างเป็นพิเศษ เพื่อใช้ในการซื้อขายสินค้าทางการเงิน ผ่านทางระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต อาทิเช่น Forex หุ้น อนุพันธ์ ทองคำ และอื่นๆอีกมากมาย โดยผู้พัฒนาโปรแกรม Metatrader คือบริษัท MetaQuotes Software Corp ซึ่งเป็นบริษัทแนวหน้าลำดับต้นๆ ในการผลิตซอฟแวร์ประเภทการเงิน ในปัจจุบันจะพบเห็นการใช้งานกันอยู่สองเวอร์ชั่น คือ Metatrader 4 (MT4) และ Metatrader 5 (MT5)
อ้อ…ถ้าจะเทรดกับโบรกเกอร์ไหนให้ไปโหลดโปรแกรมจากหน้าเว็บของโบรกเกอร์นั้นมาใช้นะครับ เพราะโบรกเกอร์แต่ละตัวโบรกก็ใช้ MT4 ที่มีอ๊อฟชั่นแตกต่างกันไป โดยจะสัมพันธ์กับโบรกเกอร์นั้นๆ แต่ว่าลักษณะโดยรวมจะเหมือนกันครับ

จุดเด่นของ MT4

1.Interface สวยงามใช้งานง่าย
จุดเด่นประการแรกคือการออกแบบโปรแกรม MT4 ให้มีหน้าตาที่สวยงาม ให้ความรู้สึกของความเป็นมืออาชีพในการเทรด ทำให้ผู้เทรด forex มองเห็นว่างานเทรด forex ก็สามารถยึดหรือดำเนินการออกมาเป็นอาชีพได้ครับ MT4 ใช้งานง่ายมาก สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ภายในไม่กี่คลิ๊ก
นอกจากนี้ MT4 ยังสามารถปรับเปลี่ยนหน้าตาของโปรแกรม ให้เป็นไปตามลักษณะการใช้งานของผู้ใช้ ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็น สี ขนาด เส้นกราฟ และอื่นๆ

2.สามารถติดตั้งบน CPU ได้
MT4 สามารถติดตั้งบน PC ได้โดยตรง โดยที่เมื่อคุณต้องการเทรด forex คุณก็ไม่จำเป็นต้องเปิดเว็บบราวเซอร์ขึ้นมาแต่อย่างใด เพียงแค่คุณนั้นเปิดโปรแกรม MT4 และทำการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไว้ก็เพียงพอแล้วสำหรับการเทรด forex ครับ

3.สามารถติดตั้งและใช้งานบนมือถือได้
นอกจากนี้การเทรด forex บนมือถือยังสามารถทำได้อย่างง่ายๆด้วยโปรแกรม MT4 ที่รองรับการติดตั้งบนมือถือทั้งในระบบ Android หรือระบบ IOS และมีหน้าตาของการใช้งานที่ง่ายเหมาะสมกับรูปแบบการแสดงผลบนมือถือ แม้ว่าการใส่อินดี้อาจจะทำได้ไม่ดีเท่าบนเครื่อง PC ก็ตาม

4.น้ำหนักเบา ไม่กินทรัพยากรของเครื่อง
ด้วยความที่โปรแกรมมีขนาดไฟล์ที่ไม่ใหญ่มากนัก จึงไม่กินทรัพยากรของเครื่อง ทำให้ไม่เกิดอาการ Hang ของโปรแกรม และไม่ว่าเครื่องคุณจะเร็ว หรือช้าแค่ไหน ก็สามารถติดตั้งโปรแกรม MT4 ได้อย่างแน่นอน และไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น

5.มีอินดี้ให้เลือกใช้มากมาย
จุดเด่นอีกประการของโปรแกรม MT4 คือมีอินดี้มากกว่า 400 ตัวในโปรแกรมแบบออนไลน์ที่ให้คุณนั้นเลือกมาเพื่อทำการติดตั้ง รวมทั้งการทดสอบอินดี้ที่คุณนั้นอาจเป็นผู้ทำการออกแบบด้วยตนเองอีกด้วย
ทั้งนี้จะมี Indicator (อินดิเคเตอร์) ที่ถูกติดตั้งมาพร้อมกับตัวโปรแกรมมากกว่า 30 ตัว ให้ได้เลือกใช้งานกัน อาทิเช่น Moving Average , Bollinger Bands , Parabolic SAR , Relative Strength Index, MACD และ Stochastic Oscillator เป็นต้น

6. เลือกได้ 9 Time Frame
สามารถเลือก Time Frame หรือ ช่วงเวลาการแสดงผลของราคาอัตราแลกเปลี่ยนของกราฟ ได้ถึง 9 Time Frame คือ 5 นาที , 15 นาที , 30 นาที , 1 ชั่วโมง , 4 ชั่วโมง , รายวัน , รายสัปดาห์ และ รายเดือน โดยจะเทรดแบบช่วงสั้นหรือช่วงยาวก็เลือกได้ตามใจชอบครับ

7.สามารถเลือกการแสดงกราฟได้ถึง 3 แบบ
เราสามารถเลือกการแสดงลักษณะของกราฟราคาอัตราแลกเปลี่ยนได้ถึง 3 แบบ คือ กราฟเส้น (Line Chart), กราฟแท่ง (Bar Chart) และกราฟแท่งเทียน (Candlestick) ตามความถนัดของแต่ละคน

8.สามารถแสดงหน้าต่างการเทรดหลายๆคู่ค่าเงินไปพร้อมๆ กันได้
สำหรับนักเทรดฟอเร็กซ์ที่ชอบเทรดมากกว่า 1 คู่สกุลเงิน คงจะชอบฟังก์ชั่นนี้อย่างมากแน่นอนครับ

9.รองรับการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา MQL
เราสามารถเขียนโปรแกรมด้วยภาษา MQL เพื่อสร้าง EA (Expert Advisor หรือ ระบบเทรดแบบอัตโนมัติ) ซึ่งสามารถให้เราทำงานร่วมกับ Metatrader ได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้นครับ

ข้อแตกต่างระหว่าง MT4 และ MT5

  1. EA ที่ทำงานบน MT4 ใช้งานไม่ได้กับ MT5 และไม่สามารถทำการแปลงมาใช้บน MT5 ได้เลย เพราะ MT5 เขียนด้วย ภาษา C++ ในขณะที่ MT4 เขียนด้วย ภาษาMQL 
  1. ไม่สามารถทำ Hedging และ Scalping ได้ MT5 มีความเข้มงวดด้านกฎระเบียบ ในการทำให้ตัวเองเป็นโปรแกรมที่มีมาตรฐานมากขึ้น โดยยึดการทำตามกฎของ NFA (National Futures Association) อันเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ที่คอยกำกับดูแลตลาดการซื้อขาย ล่วงหน้าในสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นตลาดอนุพันธ์ ตลาด Forex และ OTC Derivatives (แลกเปลี่ยน) ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ควรมีกฎแบบนี้เลย -_-
  1. โดยภาพรวม MT4 ใช้งานง่ายกว่า และเครื่องไม้เครื่องมือที่มีมาให้นั้นก็มีเกินพออยู่แล้วครับ
สรุปแล้ว หากคุณต้องการเทรด forex คุณต้องติดตั้งโปรแกรม MT4 ลงไปที่คอมพิวเตอร์หรือมือถือของคุณ และเรียนรู้ที่จะใช้มัน ในตอนแรกที่คุณใช้อาจจะงงๆเล็กน้อย แต่พอใช้เป็นแล้ว และศึกษาอย่างลึกซึ้งอย่างต่อเนื่องแล้ว คุณจะพบว่าการเทรดนั้นไม่ใช่เรื่องยากครับ
ขอบคุณที่มา http://www.forexthai.in.th

การเทรด Forex ตามข่าว Non Farm (นอนฟาร์ม) เทรดข่าวหุ้น Forex

พฤษภาคม 02, 2563

การเทรด Forex ตามข่าว Non Farm (นอนฟาร์ม) เทรดข่าวหุ้น Forex เป็นเรื่องที่สำคัญมากในการเทรด Forex เพราะเทรดเดอร์หลายคนสามารถทำกำไรในตลาด Forex ได้ด้วยข่าว Forex โดยเฉพาะข่าว Non Farm (นอนฟาร์ม) ที่เป็นข่าวที่ส่งผลต่อกราฟราคาเป็นอย่างมาก และเทรดเดอร์หลายคนยังสามารถลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากข่าวได้ ดังนั้นหากว่าคุณรู้จักวิธีการเทรด Forex ด้วยสรข่าวจะช่วยให้คุณทำกำไรจากข่าวนั้นได้ หรือหากคุณวิเคราะห์ว่าข่าวนั้นคือความเสี่ยงคุณสามารถลีกเลี่ยงจากการเทรดเมื่อมีข่าวได้

ข่าว Non-Farm (นอนฟาร์ม)

Non-Farm (นอนฟาร์ม) เป็นข่าวที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญมากและเป็นขาวที่มีผลกระทบต่อสกุลเงินมาก ซึ่งโดยปกติแล้วข่าว Non-Farm (นอนฟาร์ม) เป็นข่าวที่มักจะประกาศในทุกสัปดาห์ของต้นเดือน มักจะประกาศวันพฤหัสบดีและวันศุกร์แรกของเดือน โดยตัวเลขของข่าว Non-Farm (นอนฟาร์ม) เป็นตัวเลขของการจ้างงานของคนในธุรกิจต่างๆ
หากตัวเลขที่ประกาศออกมามีค่า สูงกว่า ค่าที่คาดการณ์ ถือว่าเป็นข่าวดี เพราะมีสาเหตุจาก มีการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น มีการจ้างงานมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้สกุลเงินนั้นเป็นบวก
หากตัวเลขที่ประกาศออกมามีค่า น้อยกว่า ค่าที่คาดการณ์ ถือว่าเป็นข่าวไม่ดี เพราะมีสาเหตุจาก มีการใช้จ่ายน้อย มีการจ้างงานน้อยลง ส่งผลให้สกุลเงินนั้นตกต่ำลง
แนะนำว่าช่วงที่มีข่าว Non-Farm(นอนฟาร์ม) โดยเฉพาะเทรดเดอร์มือใหม่หากยังไม่มั่นใจในตัวเอง ให้งดซื้อขายไปก่อน เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น

ข่าว Unemployment Rate

ข่าว Uemployment Rate ปกติแล้วข่าวนี้เป็นข่าวที่มักจะประกาศในวันเดียวกับข่าว Non-Fram (นอนฟาร์ม) เป็นตัวเลขที่บ่งบอกถึงอัตราการว่างงาน
ถ้าหากว่าตัวเลขที่ออกมา มีค่ามาก หมายถึงมีอัตราการว่างงานสูง ถือว่าไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ ส่งผลให้สกุลเงินนั้นปรับตัวลง
ถ้าหากว่าตัวเลขที่ออกมา มีค่าน้อย หมายถึงมีอัตราการว่างงานต่ำ ถือว่าเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ ส่งผลให้สกุลเงินนั้นปรับตัวขึ้น

ข่าว GDP (Gross Domestic Product)

ข่าว GDP (Gross Domestic Product) เป็นข่าวที่บ่งบอกถึงการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยข่าว GDP (Gross Domestic Product) จะใช้มูลค่าทางการเงินของสินค้าและบริการเป็นตัวชี้วัด
ถ้าหากว่าตัวเลขออกมา สูง หมายความว่า เศรษฐกิจดี ส่งผลให้สกุลเงินนั้นมีโอกาสปรับตัวขึ้น
ถ้าหากว่าตัวเลขออกมา ต่ำ หมายความว่า เศรษฐกิจไม่ดี ส่งผลให้สกุลเงินนั้นมีโอกาสปรับตัวลง

ข่าว Trade Balance (ดุลการค้า)

ข่าว Trade Balance (ดุลการค้า) เป็นตัวเลขที่บ่งบอกถึงความแตกต่างสัดส่วนของการนำเข้าและส่งออก ของสินค้าและบริการ
ถ้าหากว่าตัวเลขที่ออกมา สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ หมายถึง มีการส่งออกมากกว่าการนำเข้า ดุลการค้าจะเป็นบวก ส่งผลให้สกุลเงินมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น
ถ้าหากว่าตัวเลขที่ออกมา ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ หมายถึง มีการนำเข้ามากกว่าการส่งออก ดุลการค้าจะเป็นลบ ส่งผลให้สกุลเงินมีโอกาสปรับตัวต่ำลง

ข่าว Retail Sales (ยอดค้าปลีก)

ข่าว Retail Sales (ยอดค้าปลีก) เป็นตัวเลขที่บ่งบอกการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยวัดจากยอดขายของการค้าปลีก โดยปกติแล้ว ข่าว Retail Sales (ยอดค้าปลีก) มักจะประกาศในช่วงวันที่ 13 ของเดือนหรือช่วงเดือน
ถ้าหากว่าตัวเลขออกมา สูง หมายความว่า มีการค้าปลีกสูงขึ้น เศรษกิจดี ส่งผลให้สกุลเงินมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น
ถ้าหากว่าตัวเลขออกมา ต่ำ หมายความว่า มีการค้าปลีกต่ำลง เศรษกิจไม่ดี ส่งผลให้สกุลเงินมีโอกาสปรับตัวต่ำลง

ข่าว Unemployment Claims

ข่าว Unemployment Claims เป็นข่าวที่แสดงถึงตัวเลขผู้ที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงาน โดยทั่วไปแล้ว ข่าว Unemployment Claims มักจะประกาศออกมาในทุกวันพฤหัสบดี
ถ้าหากว่าตัวเลขออกมา สูง หมายความว่า มีคนว่างงานมากขึ้น ส่งผลให้สกุลเงินมีโอกาสปรับตัวต่ำลง
ถ้าหากว่าตัวเลขออกมา ต่ำ หมายความว่า มีคนว่างงานน้อยลง ส่งผลให้สกุลเงินมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น

ข่าว Producer Price Index (PPI)

Producer Price Index (PPI) เป็นข่าวที่แสดงถึงดัชนีราคาผู้ผลิต เป็นเสมือนตัววัดราคาของสินค้าในการค้าส่ง
ถ้าหากว่าตัวเลขออกมา สูง คาดการณ์ว่าสกุลเงินนั้นมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น
ถ้าหากว่าตัวเลขออกมา ต่ำ คาดการณ์ว่าสกุลเงินนั้นมีโอกาสปรับตัวต่ำลง

ข่าว Consumer Price Index (CPI)

Consumer Price Index (CPI) เป็นข่าวที่แสดงถึงดัชนีราคาผู้บริโภค ตัวเลขทางสถิติที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ครอบครัวหรือผู้บริโภคซื้อหามาบริโภคเป็นประจำ
ถ้าหากว่าตัวเลขออกมา สูง คาดการณ์ว่าสกุลเงินนั้นมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น
ถ้าหากว่าตัวเลขออกมา ต่ำ คาดการณ์ว่าสกุลเงินนั้นมีโอกาสปรับตัวต่ำลง

ข่าว FOMC (Federal Open Market Committee)

ข่าว FOMC (Federal Open Market Committee) เป็นข่าวการประชุมครั้งสำคัญของคณะกรรมการกำหนดนโยบายและเศรษฐกิจการเงินของสหรัฐหรือ Fed ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ มักจะส่งผลต่อสกุลเงินอย่างรุนแรง มักส่งผลให้สกุลเงินแกว่งตัวมากกว่าปกติ
ถ้าหากว่าตัวเลขออกมา สูง คาดการณ์ว่าสกุลเงินนั้นมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น
ถ้าหากว่าตัวเลขออกมา ต่ำ คาดการณ์ว่าสกุลเงินนั้นมีโอกาสปรับตัวต่ำลง


วิธีดูข่าว Forex วันนี้ จากปฏิทินข่าว Forex (Forex Calendar)

โดยเว็บไซต์ที่เราจะใช้ในการดูข่าวคือ www.forexfactory.com เว็บไซต์รวบรวมข้อมูลข่าวสารต่างๆที่จะมีผลกระทบต่อค่าเงินหรือใครหลายคนอาจจะเรียกว่า “เว็บไซต์ปฏิทินข่าว” ในรายการข่าวจะมีรายละเอียดของข่าวนั้น ว่ามีผลกระทบต่อค่าเงินอะไร กระทบต่อค่าเงินมากหรือน้อยสักเพียงใด พร้อมตัวเลขคาดการณ์ต่างๆจากสถาบันการเงิน ทำให้เราสามารถนำค่าต่างๆ เหล่านี้ เพื่อใช้ในการวิเคราะห์และคาดการณ์การเคลื่อนที่ของคู่เงินได้
 

1. DATE หรือ วัน (กรอบสีแดง)
วันที่ข่าวออก คุณสามารถดูข่าวล่วงหน้าได้เป็นอาทิตย์เลยครับ

2. เวลา (กรอบสีน้ำเงิน)
ช่วงเวลาที่มีข่าว เช็คดูดีๆนะครับถ้าหากคุณเพิ่งเคยเข้าเว็บไซต์ ForexFactory.com เป็นครั้งแรก คุณควรจะตั้งเวลาเป็น +7.00 Bangkok Thailand

3. Currency สกุลเงิน(กรอบสีส้ม)
สกุลเงินที่มีผลกระทบกับข่าวที่ออกมา (ถ้าหากว่าคู่เงินใดมีสกุลเงินเหล่านี้ ให้คุณเตรียมตัวรับมือจากข่าวนั้นได้เลย)

4. Impact ความรุนแรงของข่าว(กรอบสีเขียว)
ความรุนแรงหรือผลกระทบของข่าวที่มีต่อสกุลเงิน มีอยู่ 3 ระดับ เรียงจากกระทบน้อยไปกระทบมาก
1.       สีเหลือง Low Impact มีผลกระทบกับสกุลเงินน้อย
2.       สีส้ม Medium Impact มีผลกระทบกับสกุลเงินปานกลาง
3.       สีแดง High Impact มีผลกระทบต่อสกุลเงินรุนแรง

5. หัวข้อข่าว (กรอบสีน้ำตาล)
ชื่อของข่าว เพื่อให้คุณเข้าใจว่าหัวข้อข่าวนั้นคืออะไร

6. Detail รายละเอียดข่าว (กรอบสีชมพู)
คุณสามารถอ่านรายละเอียดข่าวตรงนี้ได้ เพื่อนำมาวิเคราะห์ว่าข่าวที่จะออกมาจะมีผลอย่างไรต่อสกุลเงิน

7. Actual ตัวเลขที่เกิดขึ้นจริง(กรอบสีเทา)
ตัวเลขที่เกิดขึ้นจริงจากการประกาศข่าว ตัวเลขนี้จะแสดงก็ต่อเมื่อข่าวนั้นออกไปแล้ว

8. Forecast ตัวเลขประมาณการของสถาบันการเงิน (กรอบสีม่วง)
ตัวเลขที่สถานบันการเงินคาดการณ์ขึ้นมา โดยส่วนใหญ่มีค่าค่อนข้งใกล้เคียง คุณสามารถนำค่าเหล่านี้มาใช้ในการประกอบการตัดสินใจได้ครับ ว่าค่าจริงที่ออกมาจะมีค่าเท่าไหร่?

9. Previous ตัวเลขของการประกาศรอบที่แล้ว (กรอบสีดำ)
ตัวเลขที่เกิดขึ้นจริงในครั้งทื่แล้ว เทรดเดอร์สามารถนำตัวเลขนี้มาคาดการณ์อนาคตได้

10. Graph กราฟ(กรอบสีเหลือง)
คุณสามารถวิเคราะห์ตัวเลขเบื้องต้นจากกราฟได้

การวิเคราะห์ข่าว Forex และเทรดข่าว Forex

ในการวิเคราะห์ข่าวเราจะให้ความสนใจไปที่ “Impact ความรุนแรงของข่าว”
1.       สีเหลือง Low Impact มีผลกระทบกับสกุลเงินน้อย
2.       สีส้ม Medium Impact มีผลกระทบกับสกุลเงินปานกลาง
3.       สีแดง High Impact มีผลกระทบต่อสกุลเงินรุนแรง

โดยค่าเราให้ความสนใจมากที่สุดคือ สีแดง High Impact เพราะถ้าหากว่าคู่เงินใดที่จะข่าวที่มีผลกระทบอย่างรุนแรงจะส่งผลให้กราฟราคามีการผันผวนและแกว่งตัวอย่างรุนแรง
ตัวอย่าง ข่าวที่ออกมามีผลกระทบต่อค่าเงิน USD ระดับ High Impact จะส่งผลให้คู่เงิน EURUSD, GBPUSD, AUDUSD, USDJPY, XAUUSD, BTCUSD และคู่เงินอื่นๆที่มี USD ล้วนแต่จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงด้วยกันทั้งหมด
หากข่าวที่ออกมา ระดับ High Impact คือข่าวดี จะส่งผลให้คู่เงินที่มี USD อยู่ข้างหน้า ตัวอย่างเช่น USDJPY มีการปรับตัวสูงขึ้น
และจะส่งผลให้คู่เงินที่มี USD อยู่ข้างหลัง ตัวอย่างเช่น EURUSD มีการปรับตัวต่ำลง

หากข่าวที่ออกมา ระดับ High Impact คือข่าวไม่ดี จะส่งผลให้คู่เงินที่มี USD อยู่ข้างหน้า ตัวอย่างเช่น USDJPY มีการปรับตัวต่ำลง
และจะส่งผลให้คู่เงินที่มี USD อยู่ข้างหลัง ตัวอย่างเช่น EURUSD มีการปรับตัวสูงขึ้น


การคำนวณ lot size ที่เหมาะสม

เมษายน 05, 2563
Lot size ที่เหมาะสมกับเงินลงทุน อยู่ที่เท่าไหร่  ตั้งเท่าไหร่ดี ? ยังเป็นคำถาม ที่ถูกถามเข้ามาเรื่อยๆ  ถ้าหากนักลงทุนหาอ่านตามเว็บไซต์ forex จะมีสูตรการคำนวณให้อ่านกันอยู่แล้ว แต่ในทางปฏิบัติแล้ว การเทรดแต่ละครั้งจะให้มานั่งคำนวณทุกครั้งก็เป็นเรื่องที่น่าปวดหัว ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นัก ผมจึงได้หาเครื่องมือ  ซึ่งเป็น Indicator ตัวหนึ่งใช้กับ mt4 เพื่อให้เราสามารถ กำหนดเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงที่รับได้ เพื่อคำนวณ lot size ที่เหมาะสมกับเงินลงทุน และการใช้งานก็สะดวกรวดเร็วสามารถติดตั้งใช้งานได้ฟรี  แต่ก่อนจะโหลด Indicator ตัวนี้มาใช้ เรามารู้จักสูตรคำนวณกันสักหน่อยดีกว่า

จากสูตรคำนวน lot size ที่เหมาะสม คิดจาก % ความเสี่ยงเทียบกับเงินลงทุน
Lot size  = Risk   x  Capital/ (#of pip  x  pip value)
ตัวอย่าง ทุน 1,000$ รับความเสี่ยงที่ 5 % 
คือหากผิดทางยอมขาดทุนที่   50$  โดยกำหนด Stop Loss ไว้ที่ 300 pips

แทนค่าจากสูตรจะได้
Risk(5%)   x   Capital (1,000)  =   50$
Pip value =  300
Lot size =  50 / 300 =  0.16

สรุป ถ้าเรามีเงินทุน 1,000 $ ยอมขาดทุน 50$  โดยกำหนด Stop loss ไว้ที่ 300 pip ต้องใช้ขนาด Lot size = 0.16

 เมื่อเราเข้าใจสูตรคำนวณแล้ว มาโหลด Indicator เพื่อช่วยคำนวณ ในโปรแกรม mt4 กันเลย จะได้ไม่ต้องมาคำนวณให้วุ่นวาย หน้าตัวอย่าง Indicator เมื่อติดตั้งแล้ว.






ขั้นตอนการติดตั้ง
อันดับแรกให้คลิกที่ลิงค์    Downlaod >> LotSizeCalculator
เพื่อดาวน์โหลดไฟล์  จากนั้นให้แตกไฟล์ Zip ชื่อว่า LotSizeCalculator.zip
1.ให้เลือก ไฟล์ที่ชื่อว่า LotSizeCalculator.ex4 แล้ว คลิกขวา   > คัดลอก.




2.  เปิดโปรแกรม MT4 ไปทีเมนู  แฟ้ม > เปิดโฟลเดอร์



3. ให้เข้าไปที่ โฟลเดอร์ชื่อว่า MQL4 > Indicators  แล้ววางไฟล์ที่คัดลอกไว้ ที่โฟลเดอร์นี้.





4.  กลับไปที่โปรแกรม MT4  กดปุ่มบนคีย์บอร์ด Ctrl + N  หรือคลิกที่ icon ดังรูปด้านล่าง เพื่อให้แสดงแถบ Indicator list




5.  คลิกขวาตรง รายการ Indicators > รีเฟรซ เพื่อให้โปรแกรมโหลดไฟล์ Indicator ตัวใหม่ที่เราเพิ่งติดตั้งไว้.

6.  ให้หา indicator ที่ชื่อว่า  LotSizeCalculator แล้วคลิกค้างไว้แล้วลากไปยัง หน้าต่างแสดงกราฟ.


อธิบาย หน้าจอหลังติดตั้ง Indicator    LotSizeCalculator. 

วิธีตั้งค่า ระดับความเสี่ยง.

วิธีใช้งาน คำนวณ Lot size ที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ตั้งไว้ 


เป็น indicator ที่ใช้งานง่ายมาก เราแค่ตั้งค่าระดับความเสี่ยง  (Risk) จากนั้น ลากเส้น จุด Stop loss ที่เราต้องการ Indicator ก็จะคำนวณ Lot size ได้เราทันที ลองเอาไปใช้กันนะครับ ติดตรงไหนถามได้. 


คำเตือนความเสี่ยง

การลงทุนและการเก็งกำไรมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนและผู้เก็งกำไรควรเรียนรู้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงิน ก่อนการตัดสินใจในการลงทุนหรือการเก็งกำไรใดๆ การซื้อขายผลิตภัณฑ์เลเวอเรจเช่น CFD มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนสูงและอาจไม่เหมาะกับนักลงทุนทุกคน การซื้อขายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีความเสี่ยงและคุณอาจสูญเสียเงินที่ลงทุนไปทั้งหมดได้