Forex คืออะไร? เข้าใจ Forex ใน 10 นาที






 มือใหม่มารู้จักกับ Forex คืออะไรกันก่อน

           หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากเป็นนักเทรดหุ้นแต่มีทุนทรัพย์น้อย การเทรด Forex จึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ดีสำหรับคุณ เนื่องจาก Forex สามารถใช้ทุนแค่เพียงหลักร้อย-พันบาทก็สามารถทำกำไรได้ถึงเดือนละหลักหมื่นถึงแสนบาทได้ไม่ยากขึ้นอยู่กับฝีมือและดวงของแต่ละคน
           การเทรด Forex จะมีสภาพคล่องสูงกว่าการเทรดหุ้นมาก สามารถเทรดได้ตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ ตลอด 24 ชั่วโมง มีนักเทรดจากทั่วโลกเข้าร่วมเทรด ทำให้กราฟวิ่งขึ้น-ลงเร็วมาก ดังนั้นจึงส่งผลให้เกิดจังหวะในการทำกำไรและขาดทุนมีบ่อยครั้งตามมา Forex จึงเป็นที่น่าสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก


Forex คืออะไร


           Forex (FOReign EXchange market) คือ ตลาดทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สิ่งที่ซื้อ-ขายกันมีมากมายในตลาด อาทิเช่น
               - โลหะต่างๆ (เช่น ทอง,เงิน,ทองแดง,ตะกั่ว)
               - ดัชนีต่างๆ (เช่น น้ำมัน, Down Jones, SET50 )
               - เงินตราสกุลต่างๆ จะอยู่ในรูปแบบการจับคู่แลกเปลี่ยน (เช่น EUR/USD, USD/JPY, GBP/USD เป็นต้น)
           ตลาด Forex มีมูลค่าการซื้อขายต่อวันสูงถึง 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากกว่าทุกตลาดทางการเงินในโลกนี้รวมกัน โดยก่อนที่จะมีอินเตอร์เน็ตแพร่หลายนั้น ตลาด Forex จะมีผู้เล่นเพียงบางกลุ่มเท่านั้น เช่น ธนาคาร กองทุน ผู้นำเข้า และส่งออก แต่เมื่อมีอินเตอร์เน็ตก็เริ่มมีการพัฒนาระบบเทรดบนอินเตอร์เน็ต และเริ่มมีโบรกเกอร์ที่ให้บริการสำหรับนักลงทุนรายย่อยที่สนใจให้สามารถเริ่มต้นเทรดได้ด้วยทุนเพียง $1 เท่านั้น จึงทำให้การลงทุนในตลาดแห่งนี้แพร่หลายไปทั่วโลก


ความน่าสนใจของตลาด Forex
       - เงินลงทุนต่ำเริ่มต้นเพียง $1
       - ตลาด online ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต 24 ชั่วโมง
       - สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
       - ค่าดำเนินการต่ำโบรกเกอร์เก็บค่า spread เริ่มต้นเพียง 2 pips ต่อเทรดเท่านั้น (คู่ EUR/USD)
       - สามารถทดลองเทรดได้เสมือนจริงโดยใช้ virtual money (เงินปลอม) บนระบบจริง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
       - หากคุณศึกษาหาความรู้จนเกิดความชำนาญก็สามารถเทรด Forex เป็นอาชีพได้


เวลาเปิด - ปิดของตลาด Forex

           ตลาด Forex นั้นมีหลายแห่งในโลก มีเวลาการเปิด-ปิดที่คาบเกี่ยวกัน ทำให้นักเทรดสามารถเทรดได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมงทุกวันต่อเนื่อง ตั้งแต่เช้าวันจันทร์เวลาตี 4 จนถึงเช้าวันเสาร์เวลาตี 4 (ตามเวลาประเทศไทย) ยกตัวอย่าง เวลาเปิด-ปิดของตลาดหลักๆ ดังนี้
ตลาด Forex เปิด 24 ชั่วโมง ตลอด วันต่อสัปดาห์  ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับคนไทยในการทำการเทรดคือช่วงที่ตลาดลอนดอนเปิดและช่วงต้นของตลาดนิวยอร์ค  ข่าวกิจกรรมและกิจกรรมการเทรดที่เกิดในช่วงดังกล่าวจะทำให้ตลาดผันผวนเป็นอย่างมาก ซึ่งจะช่วยเปิดโอกาสการเทรดให้กับคุณ



วันนี้ ตลาด Forex เปิดตอนกี่โมง
ตลาด Forex เปิดทำการทุกวันอาทิตย์เวลา 22.00 น. ตามเวลา GMT ซึ่งเป็นช่วงผันผวนที่สุดในตลาด Forex ซึ่งตลาดหุ้นทั่วโลกเปิดทำการ ฉะนั้น เมื่อตลาดแถบยุโรปเปิดทำการ คู่สกุลเงิน EUR จะผันผวนมากขึ้น และเมื่อตลาดนิวยอร์คเปิดทำการ บรรดาคู่สกุลเงินหลักจะผันผวนมากขึ้น
ตลาด Forex ปิดตอนกี่โมง
ตลาด Forex ปิดทำการทุกวันศุกร์เวลา 22.00 น. ตามเวลา GMT ทุกสัปดาห์
เวลาเปิดทำการของตลาด
ภูมิภาค
เมือง
เปิด (GMT)
ปิด (GMT)
ยุโรป
ลอนดอน
8:00 น.
17:00 น.
แฟรงก์เฟิร์ต
7:00 น.
16:00 น.
อเมริกา
นิวยอร์ค
13:00 น.
22:00 น.
ชิคาโก
14:00 น.
23:00 น.
เอเชีย
โตเกียว
เที่ยงคืน
9:00 น.
ฮ่องกง
1:00 น.
10:00 น.
แปซิฟิค
ซิดนีย์
22:00 น.
7:00 น.
เวลลิงตัน
22:00 น.
6:00 น.
ตลาด Forex เปิดในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือไม่
ตลาด Forex ปิดทำการในวันหยุดสุดสัปดาห์ คุณควรทำความเข้าใจ TomNext Adjustment หากคุณเปิดการเทรดข้ามวันหรือช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
ตลาดการเทรดเปิด
ช่วงที่ตลาดเปิด เป็นโอกาสที่ดีสำหรับการทำ scalping แต่ก็สำหรับผู้ที่เตรียมพร้อมฉกฉวยประโยชน์จาการขยับเล็กน้อยเหล่านี้ สำหรับผู้ที่สนใจทำ scalping กรุณาดู PitView เพราะเครื่องมือนี้ค่อนข้างทรงประสิทธิภาพและอย่าลืมตรวจสอบว่า คุณเทรดกับโบรกเกอร์ forex ที่มีเงื่อนไขการเทรดซึ่งให้การทำ scalping ทำกำไรได้
ที่มา: https://fxscouts.com/th/


  คำสั่งที่ใช้ในการเทรด โดยพื้นฐานที่ต้องทราบ คือ

1. Market Order - ออเดอร์ที่ buy หรือ Sell จากราคาของตลาดปัจจุบัน  
    ตัวอย่าง เช่น EUR/USD ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 1.2800 ถ้าคุณต้องการ Buy ที่ราคานี้ คุณก็คลิก Buy  แล้วคุณก็จะได้ราคานี้ทันที

2. Limit Order - ออเดอร์ที่ถูกแทนที่ด้วย Buy หรือ Sell จากราคาล่วงหน้า (ตั้งไว้สวนนั่นเอง)
    ตัวอย่าง เช่น ถ้าตอนนี้ราคาของ EUR/USD อยู่ที่ 1.2800 หากคุณต้องการตั้งสวน Buy ที่ 1.2780 คุณต้องใช้ คำสั่ง Buy Limit เมื่อราคาลงไปถึง 1.2780 ไปชนออเดอร์ของคุณ คุณก็จะได้ราคานี้ทันที

3. Stop Order ออเดอร์ที่ถูกแทนที่ด้วย Buy หรือ Sell จากราคาล่วงหน้าเช่นกัน (แต่เป็นการตั้งตามแนวโน้ม)
    ตัวอย่าง เช่น ถ้าตอนนี้ราคาของ EUR/USD อยู่ที่ 1.2800 แล้วคุณต้องการ Buy เมื่อราคาสามารถทะลุแนวต้านที่ 1.2820 คุณก็อาจจะไปตั้ง Buy Stop ที่ราคา 1.2820 ถ้าราคาผ่าน 1.2820 ได้ ราคาก็จะไปชน Limit order ของคุณ

4. Stop Loss - จุดหยุดการขาดทุน (กรณีที่มีการเข้าออเดอร์อยู่แต่ไม่มีเวลาเฝ้าหน้าจอ การ Stop loss สามารถช่วยคุณได้) 
    ตัวอย่าง เช่น ถ้าคุณ Buy EUR/USD ที่ราคา 1.2820 คุณต้องการที่จะหยุดขาดทุนที่ 20 pips คุณก็สามารถตั้ง Stop loss ได้ที่ราคา 1.2800  เมื่อราคาลงมาถึง 1.2800 ออเดอร์ของคุณก็จะหยุดทันที  Stop Loss สามารถช่วยหยุดการขาดทุนของคุณได้ ช่วยให้เงินของคุณไม่หมดพอร์ต

5. Target / Take Profit - ราคาเป้าหมายหรือกำไรที่คุณต้องการ 
    ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการกำไรจาก Order Buy ที่ราคา 1.2820  โดยหวังกำไรจากรายการนี้ 20 pips คุณก็ตั้ง Target / Take Profit ไว้ที่ 1.2840


Leverage คืออะไร

        Leverage คือ จำนวนเปอร์เซ็นต์ที่ได้ยืมเงินจากโบรกเกอร์เพื่อทำการเปิดออเดอร์เทรด  
ยกตัวอย่าง เช่น เมื่อคุณซื้อ 100 หุ้นในตลาดหุ้นโดยที่ราคาหุ้นละ 10 $ ต่อหุ้น คุณต้องใช้เงิน 1000$ เพื่อ
เปิดการเทรด บางโบรกเกอร์ให้คุณยืมเงินเพื่อเทรดสูงถึง 50-80% ของมูลค่าหุ้นทั้งหมด แทนที่คุณจะใช้เงิน 1000$ แต่คุณกลับใช้แค่ 500 $ เท่านั้น เพื่อทำการเทรด สิ่งนี้แหละที่ทำให้เทรดเดอร์สามารถซื้อหุ้นได้มาก โดยใช้เงินเท่าเดิม อย่างไรก็ตามทางโบรกเกอร์ก็จะชาร์จกำไรจากการยืมของคุณ หลักการณ์นี้ก็นำมาใช้กับตลาด Forex

        โบรกเกอร์ฟอเร็กให้คุณยืมถึง 99 % ของทั้งหมดเพื่อให้คุณเปิดการเทรดและคุณก็ใช้มันเพียงแค่ 1 % เท่านั้น ถ้าคุณต้องการเทรด 1000$ คุณใช้มันเพียงแค่ 10 $ นี่แหละครับ คือความแตกต่างระหว่างตลาดหุ้นและตลาดฟอเร็กซ์ และตลาดฟอเร็กไม่ชาร์จกำไรจากการยืมของคุณด้วย

        เอาล่ะครับ หลายๆคนอาจจะงง เรามาดูกันเลยครับ ว่า Leverage ที่โบรกเกอร์ฟอเร็กได้กำหนดไว้มีเท่าไรบ้าง โดยส่วนมากโบรกเกอร์จะกำหนด Leverage ตั้งแต่
Leverage    
1:1
1:2
1:10
1:100
1:200
1:400
1:500
1:1000
1:2000  เฉพาะบางโบรกเกอร์ เท่านั้น


สมมุติ
                                                                                                                                   
            Leverage             ความต้องการเทรด             Use Margin
            1:100             1 lot(100,000$)             1000$
            1:200             1 lot(100,000$)             500$
            1:400             1 lot(100,000$)             250$

การ เทรด 1 Lot คือ การใช้ Use Margin 1000 ดอลล่า เพื่อที่จะเทรดฟอเร็กซ์ โดยใช้ Leverage 1:100  หมายความว่า คุณต้องมีเงินในบัญชีเทรดฟอเร็กซ์มากกว่า 1000 $ คุณจึงจะเทรดที่ 1 Lot ได้ และการเปลี่ยนแปลงต่อจุด ถ้าราคาเคลื่อนที่ไป 1 pips จะเท่ากับ 10 $  เพราะฉะนั้น ถ้าคุณมีเงินแค่ 1000 $ แล้วคุณปล่อยให้ลบ 100 pips บัญชีของคุณก็จะโดน Margin Call ทันที ถ้าคุณไม่มี Margin โบรกเกอร์ก็จะตัดทันที
Leverage 1 :200 สิ่งที่แตกต่างของ Leverage 1:200 คือ จำนวนเงินที่ใช้เทรด Use Margin จะน้อยกว่า 1:100 แต่ การเปลี่ยนแปลงต่อ 1 pip เท่ากับ 10 $ เหมือนกัน
ไม่ว่าคุณจะเล่นที่ Leverage เท่าไร การเปลี่ยนแปลงต่อ 1 pips (กำไร/ขาดทุน) ก็ยังคงเท่าเดิม
ซึ่ง ตอนนี้บางโบรกเกอร์ สร้าง Leverage  สูงๆ ขึ้นมาเพื่อให้พวกนักลงทุนที่ชอบเล่นสั้นๆ ลงเงินเยอะๆ อย่างเช่น  Loeverage 1:1000 ถ้าคุณมีเงิน 1000 $ ในบัญชี คุณสามารถเทรด 5 Lot ได้ ซึ่งก็หมายความว่า คุณต้องการให้ได้กำไร 50$ ต่อ pips แต่ถ้าราคาไม่เป็นดังที่คุณต้องการ ราคาลบไป 20 pips
พอร์ตของคุณก็จะเกลี้ยงทันที เป็นต้น
Pip คืออะไร
คำว่า Pip คืออะไร

               โดยทั่วไปการเพิ่มขึ้นของค่าเงินนั้นจะบอกเป็น Pip ถ้า EUR/USD เคลื่อนที่จาก 1.2250 ไปที่ 1.2251 นี่คือเคลื่อนที่ไป 1 pip  PIP คือ จุดทศนิยมตัวสุดท้ายซึ่งถูกอ้างอิงจากราคาปัจจุบันของตลาด กำหนดให้มีสี่ตำแหน่งที่ใช้กัน ในบางโบรกเกอร์อาจจะมีถึงห้าตำแหน่ง  PIP เป็นสิ่งที่บอกให้คุณรู้ว่า คุณได้กำไรหรือขาดทุน
โดยแต่ละค่าเงินก็มี ค่างของตัวมันเอง มันเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ต้องคำนวนค่าของ pip สำหรับค่าเงินนั้นๆ ค่าเงินที่ USD ขึ้นก่อน สามารถคำนวณได้ดังนี้
เช่น USD/JPY อยู่ที่ ราคา 119.80(โดยส่วนมากจะมีทศนิยมสองตำแหน่ง ) ในกรณีนี้ 1 pip เท่ากับ 0.01
ดังนั้น
USD/JPY
119.80
0.01 หารด้วย อัตราแลกเปลี่ยน = pip value
0.01/119.80 = 0.0000834
ดูเหมือนกับกว่ามีตัวเลขที่เยอะมากแต่เราจะอธิบายตัวเลขนี้ในภายหลัง
USD/CHF
1.5250
0.0001 หารด้วยอัตราแลกเปลี่ยน = pip value
0.0001/1.5250 = 0,0000655

USD/CAD
1.4890
0.0001 หารด้วยอัตราแลกเปลี่ยน = pip value
0.0001/1.48990 = 0.00006715

และในกรณีที่ US ดอลล่าร์ ไมได้อยู่เป็นตัวแรก และเราต้องการที่จะได้รับเป็นค่าของดอลล่า เราทำได้ดังนี้
EUR/USD
1.2200
0.0001 หารด้วยอัตราแลกเปลี่ยน = pips value
ดังนั้น
0.0001/1.2200 = EUR 0.00008196
แต่พวกเราต้องการทำให้เป็นหน่วย US ดอลล่าร์ เราจึงต้องคำนวนใหม่เป็น
EUR คูณ อัตราแลกเปลี่ยน
ดังนั้นจะเท่ากับ
0.00008196 * 1.2200= 0.00009999
เราปัดทศนิยมให้เป็นสี่ตำแหน่งจะได้เป็น 0.0001

GBP/USD
1.7975
0.0001 หารด้วยอัตราแลกเปลี่ยน = pip value
ดังนั้น
0.0001/1.7975 =GBP 0.0000556
แต่เราต้องการทำให้เป็นหน่วยของ US ดอลล่าร์ ซึ่งคำนวนได้ดังนี้
GBP*อัตราแลกเปลี่ยน
ดังนั้นจะได้เท่ากับ
0.0000556*1.7975=0.0000998
เราปัดเป็นทศนิยมสี่ตำแหน่งเป็น 0.0001

สำหรับ ค่าเหล่านี้ คุณไม่ต้องคำนวนอะไร เราอยากให้ทราบถึงที่มา ว่ามันมาอย่างไร ทั้งหมดนี้ โบรกเกอร์จัดการให้คุณแบบอัตโนมัติ  มันเป็นสิ่งที่ดีที่คุณควรจะรู้ว่ามันทำงานอย่างไร


Lots คืออะไร
Lots คืออะไร

           ในตลาด Forex เทรดเป็นจำนวน Lots, ขนาดมาตรฐานสำหรับ Lot คือ 100000 units และมี Mini lot size ที่ 10000 units เมื่อคุณรู้แล้วว่า ค่าเงินนั้นวัดค่าเป็น pips ซึ่งเป็นการเพิ่มทีละน้อยของค่าเงินนั้น ซึ่งข้อดีของการเพิ่มทีละน้อย มันทำให้คุณสามารถเทรดได้จำนวนมากๆในแต่ละค่าเงินที่คุณเลือก และสามารถคำนวณกำไร ขาดทุนได้

สมมติว่าเราใช้ 100000 units (Standard size) เราจะคำนวนใหม่ให้เห็นค่าของ pip value
USD/JPY ที่อัตราแลกเปลี่ยน 119.80
(.01 / 119.80) x 100,000 = $8.34 per pip)

USD/CHF at an exchange rate of 1.4555
(.0001 / 1.4555) x 100,000 = $6.87 per pip)

EUR/USD at an exchange rate of 1.1930
(.0001 / 1.1930) X 100,000 = 8.38 x 1.1930 = $9.99734 rounded up will be $10 per pip)

GBP/USD at an exchange rate or 1.8040
(.0001 / 1.8040) x 100,000 = 5.54 x 1.8040 = 9.99416 rounded up will be $10 per pip.)

ซึ่งโบรกเกอร์ของคุณอาจจะมีข้อตกลงที่แตกต่างกันในการคำนวน pip value สัมพันธ์กับ Lot size แต่ไม่ว่าสิ่งไหนก็ตามหนทางที่พวกเขาทำ พวกเขาจะต้องแจ้งให้คุณทราบ pips value ของการเทรดของคุณที่เวลานั้นๆ เป็นเท่าไร ขณะที่ตลาดมีการเคลื่อนตัว  pip value จะขึ้นอยู่กับค่าเงินอะไร ที่คุณเทรดอยู่ ณ ปัจจุบัน

คุณสามารถคำนวนกำไรและขาดทุนได้อย่างไร
ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าจะสามารถคำนวน Pip value ได้อย่างไร ต่อไปนี้มาดูวิธีการคำนวนกำไรและขาดทุนของคุณ

Buy USD และ Sell Swiss francs
ที่อัตราที่แสดงราคาคือ 1.4525/1.4530  เพราะว่าคุณได้  Buy US คุณจะได้ราคา 1.4530
ไม่กี่นาทีผ่านไป ราคาเคลื่อนที่ไปที่ 1.4550 และคุณตัดสินใจที่จะปิดออเดอร์ของคุณ
 ราคาที่แสดงใหม่ของ USD/CHF คือ  1.4550/1.4555
ผลต่างระหว่าง 1.4530 ถึง 1.4550 คือ 20 pips
ใช้สูตรก่อนหน้านี้ในการคำนวนจะได้

(.0001/1.4550) x 100,000 = $6.87 per pip x 20 pips = $137.40
Long และ Short คืออะไร
เนื่องจากการเทรด Forex สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มการเทรด Forex ผู้ที่ต้องการเทรดจะต้องรู้ว่าคุณต้องการจะซื้อ (Buy) หรือ ต้องการจะขาย (Sell)
ถ้าคุณเชื่อว่า Base Currency จะมีค่ามากขึ้น แสดงว่า คุณต้องการที่จะซื้อ (Buy) ก่อนแล้วจึงขายที่ราคาสูงกว่า แบบนี้จะเรียกว่า Long Position เรียกกันย่อๆว่า
 "Long" (เป็นที่รู้กันว่า Long = Buy)
ถ้าคุณเชื่อว่า Base Currency จะมีค่าน้อยลง แสดงว่า คุณต้องการที่จะขาย (Sell) ก่อนแล้วจึงซื้อที่ราคาต่ำกว่า แบบนี้จะเรียกว่า Short Position เรียกกันย่อๆว่า
 "Short" (เป็นที่รู้กันว่า Short = Sell)



การอ่านค่าสกุลเงิน Forex (คู่เงิน)
สกุลเงิน Forex จะแสดงเป็นคู่กันเสมอ เช่น
EUR/USD คือ ค่าเงินยูโร (EUR) เทียบกับ ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐ (USD)
GBP/USD คือ ค่าเงินปอนด์ (GBP) เทียบกับ ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐ (USD)
USD/JPY คือ ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐ (USD) เทียบกับ ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐ (JYP)

สกุลเงินที่อยู่หน้า "/" เรียกว่า สกุลเงินหลัก (Base Currency)
สกุลเงินที่อยู่หลัง "/" เรียกว่า สกุลเงินอ้างอิง (Quote Currency หรือ Counter)

ตัวอย่าง EUR/USD = 1.5500
EUR คือ สกุลเงินหลัก (Base Currency)
USD คือ สกุลเงินอ้างอิง (Quote Currency หรือ Counter)

ความหมายของการซื้อ-ขายที่อัตราแลกเปลี่ยน EUR/USD = 1.5500
นั่นคือ คุณขายเงิน 1.5500 ดอลล่าร์สหรัฐ เพื่อที่จะแลกเปลี่ยนเงินเป็น 1 ยูโร
(หรือ ขายเงิน 1.5500 ดอลล่าร์สหรัฐ เพื่อซื้อเงิน 1 ยูโรนั่นเอง)

Bid / Ask / Spread คือ อะไร
ในตารางแสดงราคาฟอเร็กจะประกอบด้วย Bid และ Ask ราคา Bid จะต่ำกว่าราคา Ask เสมอ
- "Bidคือ ราคาที่ Dealer กำลังจะซื้อ Base Currency ในการแลกเปลี่ยนสำหรับ Quote Currency แบบนี้หมายความว่า Bid ก็คือราคาที่คุณจะขาย (sell)
- "Ask" คือ ราคาที่ Dealer กำลังจะขาย Base Currency ในการแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้ Quote Currency แบบนี้หมายความว่า Ask คือราคาที่คุณจะซื้อ (Buy)
- "Spread" คือ ส่วนต่างระหว่าง ราคา Bid และ Ask

คำเตือนความเสี่ยง

การลงทุนและการเก็งกำไรมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนและผู้เก็งกำไรควรเรียนรู้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงิน ก่อนการตัดสินใจในการลงทุนหรือการเก็งกำไรใดๆ การซื้อขายผลิตภัณฑ์เลเวอเรจเช่น CFD มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนสูงและอาจไม่เหมาะกับนักลงทุนทุกคน การซื้อขายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีความเสี่ยงและคุณอาจสูญเสียเงินที่ลงทุนไปทั้งหมดได้